เจาะกลยุทธ์ 3 แบรนด์กระเป๋าแฟชั่นของคนไทย ที่คนแย่งกันกดซื้อจนหมดใน 3 นาที
ใครจะไปคิดว่ากระเป๋าแฟชั่นฝีมือคนไทย จะกลายเป็น It-Bag ที่ทำให้สาว ๆ และหนุ่ม ๆ วัยรุ่นยุคนี้พร้อมใจกันรอกดซื้อแบบไม่กะพริบตา เพราะถ้าช้าไปเพียงไม่กี่วินาทีของก็หมดเกลี้ยงไปต่อหน้าต่อตาในไม่กี่นาที
วันนี้เรามาพูดถึง 3 เรื่องราวของแบรนด์ธุรกิจที่น่าสนใจ ว่าแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นและกลยุทธ์อย่างไรถึงก้าวขึ้นมาเป็น ของต้องมี ที่ครองตลาดได้สำเร็จ
แบรนด์แรกอย่าง A TREASURE BOX ความเรียบหรูที่จับต้องได้
ทำรายได้กว่า 25.32 ล้านบาท ในปี 2567 ต้องบอกเลยว่าแบรนด์นี้เลือกทางเดินของตัวเองอย่างชัดเจน คือ การเป็นกระเป๋าดีไซน์ iconic เรียบหรู ใช้วัสดุพิถีพิถัน แต่ยังคงราคาที่เข้าถึงได้ กลยุทธ์หลักคือการสร้างภาพลักษณ์ผ่าน craftsmanship และการใช้โซเชียลมีเดียเป็นเวทีเล่า ตัวตน ของแบรนด์ให้ผู้ติดตามรู้สึกผูกพัน
แบรนด์ Rally Movement จากแฟชั่นสู่การสร้างคอมมูนิตี้
รายได้ทะลุ 459.18 ล้านบาท และกำไรสูงถึง 201.09 ล้านบาท Rally Movement ไม่ได้ขายแค่กระเป๋า แต่ขาย movement ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคมแฟชั่น ด้วยกระเป๋าสไตล์ modern retro chic ที่ทั้งเบา จุเยอะ และทำจาก vegan eco-friendly leather บวกกับกลยุทธ์ออกคอลเลกชันแบบ limited และการสร้างประสบการณ์ unboxing ที่ลูกค้ารู้สึกพิเศษทุกครั้ง
แบรนด์ Merge กับแนวคิด Everyday It-Bag
กวาดรายได้ 223.51 ล้านบาท และกำไร 9.16 ล้านบาท ในปี 2567 ที่ผ่านมา Merge ปักธงในฐานะกระเป๋าแฟชันสตรีท unisex ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง เน้นวัสดุเบาแต่จุเยอะ หูจับหนัง vegan พรีเมียม และฟังก์ชันครบถ้วน กลยุทธ์ของ Merge คือการปล่อยคอลเลกชันใหม่เป็นรอบๆ ใช้โซเชียลดันกระแส Collaboration กับแบรนด์อื่นๆ และสร้างภาพจำว่าใครๆ ก็ต้องมี Everyday It-Bag
ทั้ง 3 แบรนด์ สะท้อนบทเรียนธุรกิจที่น่าสนใจว่าแฟชั่น ไม่ใช่แค่เรื่องดีไซน์ แต่คือการเล่าเรื่อง สร้างคุณค่า และสร้างคอมมูนิตี้รอบตัวสินค้า แล้วคุณล่ะเคยกดสั่งทันกระเป๋าแบรนด์ไหนบ้าง? หรือมีใน wish list อยู่แล้วบ้างรึยัง...
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก ช่องทางโซเชียลมีเดียของแต่ละแบรนด์